การขอ มาตรฐานที่พัก เพื่อการท่องเที่ยวของไทย
จากสภาพการณ์ที่ประเทศไทยมีผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมอยู่เป็นจํานวนมาก แต่ยังไม่มีการจัด มาตรฐานที่พัก ของโรงแรมอย่างเป็นรูปธรรมที่ ชัดเจนและเชื่อถือได้ ทําให้มาตรฐานการประกอบกิจการโรงแรมในประเทศไทยเป็นไปอย่างไม่มีทิศทางที่ชัดเจน มาตรฐานการประกอบกิจการโรงแรม แตกต่างกันออกไปตามความพึงพอใจของผู้ประกอบการ ซึ่งหากปล่อยให้สภาพการณ์ดังกล่าวดําเนินต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจจะส่งผลต่อการพัฒนา และการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรมทั้งระบบ ดังนั้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาและการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรมอย่างยั่งยืน จึงจําเป็นต้องมีระบบ มาตรฐานอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและเชื่อถือได้สําหรับโรงแรมในประเทศไทยในการส่งมอบคุณค่าการบริการที่ดีให้แก่ลูกค้าอย่างเหมาะสม ให้เกิด ระบบการคุ้มครองผู้บริโภค นํามาซึ่งสิ่งที่จําเป็นและเพียงพอสําหรับการบริหารโรงแรมในแต่ระดับมาตรฐานอย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ เพื่อช่วยทําให้ อุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
จากสภาพการณ์ที่ประเทศไทยมีผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมอยู่เป็นจํานวนมาก แต่ยังไม่มีการจัด มาตรฐานที่พัก ของโรงแรมอย่างเป็นรูปธรรมที่ ชัดเจนและเชื่อถือได้ ทําให้มาตรฐานการประกอบกิจการโรงแรมในประเทศไทยเป็นไปอย่างไม่มีทิศทางที่ชัดเจน มาตรฐานการประกอบกิจการโรงแรม แตกต่างกันออกไปตามความพึงพอใจของผู้ประกอบการ ซึ่งหากปล่อยให้สภาพการณ์ดังกล่าวดําเนินต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจจะส่งผลต่อการพัฒนา และการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรมทั้งระบบ ดังนั้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาและการเติบโตของอุตสาหกรรมโรงแรมอย่างยั่งยืน จึงจําเป็นต้องมีระบบ มาตรฐานอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและเชื่อถือได้สําหรับโรงแรมในประเทศไทยในการส่งมอบคุณค่าการบริการที่ดีให้แก่ลูกค้าอย่างเหมาะสม ให้เกิด ระบบการคุ้มครองผู้บริโภค นํามาซึ่งสิ่งที่จําเป็นและเพียงพอสําหรับการบริหารโรงแรมในแต่ระดับมาตรฐานอย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ เพื่อช่วยทําให้ อุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ประเภทโรงแรม (Hotel Standard)
หมายถึง สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสําหรับคนเดินทาง หรือ
บุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน ทั้งนี้ไม่รวมถึง
(1) สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวซึ่งดําเนินการโดยส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ องค์การ มหาชน
หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือเพื่อการกุศล หรือการศึกษา ทั้งนี้ โดยมิใช่เป็นการหาผลกําไรหรือรายได้มา
แบ่งปันกัน
(2) สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการที่พักอาศัยโดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือน ขึ้นไปเท่านั้น
(3) สถามาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่นที่พักอื่นใดตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
ประเภทโรงแรม (Hotel Standard)
หมายถึง สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสําหรับคนเดินทาง หรือ
บุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน ทั้งนี้ไม่รวมถึง
(1) สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวซึ่งดําเนินการโดยส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ องค์การ มหาชน
หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือเพื่อการกุศล หรือการศึกษา ทั้งนี้ โดยมิใช่เป็นการหาผลกําไรหรือรายได้มา
แบ่งปันกัน
(2) สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการที่พักอาศัยโดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือน ขึ้นไปเท่านั้น
(3) สถามาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่นที่พักอื่นใดตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
ประเภทรีสอร์ท ( Resort Standard )
หมายถึง สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสําหรับคนเดินทาง หรือ
บุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน ทั้งนี้ สถานที่พักตากอากาศตามมาตรฐานฉบับนี้ไม่รวมถึงห้องประชุมสัมมนา
การจัดแบ่งมาตรฐานโรงแรมและ เครื่องหมาย
- รูปดาวห้าแฉกหนึ่งดาว หมายถึงมาตรฐานระดับหนึ่งดาว
- รูปดาวห้าแฉกสองดาว หมายถึงมาตรฐานระดับสองดาว
- รูปดาวห้าแฉกสามดาว หมายถึงมาตรฐานระดับสามดาว
- รูปดาวห้าแฉกสี่ดาว หมายถึงมาตรฐานระดับสี่ดาว
- รูปดาวห้าแฉกห้าดาว หมายถึงมาตรฐานระดับห้าดาว
การแสดงสัญลักษณ์
1. ป้ายแสดงสัญลักษณ์มาตรฐาน 1.1 ขนาดป้าย 21×30เซนติเมตร พื้นสีทอง มีดาวประดับอยู่ด้านบน ตามจํานวนมาตรฐานการรับรอง 1.2การปิดประกาศป้ายสัญลักษณ์ ให้ปิดประกาศป้ายสัญลักษณ์มาตรฐานโรงแรมดังนี้ -มุมขวาบนป้ายทางเข้าหลัก ด้านหน้าโรงแรม -ในกรกณีที่ไม่สามารถประกาศทีทางเข้าหลักได้ให้ปิดประกาศไว้ที่ป้ายทางเข้าอาคารโรงแรม -ในกรณีที่ไม่สารมารถให้ปิดประกาศไว้ที่ตามกล่าวข้างต้นให้ปิดประกาศไว้ในที่เปิดเผยของ ห้องโถง ( Lobby) โรงแรมเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบถึงระดับมาตรฐานของ โรงแรมนั้น
2.เกียรติบัตรรับรองของมูลนิธิฯ ให้ประกาศไว้ที่บริเวณห้องโถง ( Lobby ) ด้านหน้าโรงแรมเพื่อแสดงให้ผู้เข้าพักและ/หรือผู้ มาใช้บริการได้ทราบ
ปัจจัยหลักในการพิจารณาตัดสินมาตรฐาน การจัดระดับมาตรฐานนั้นจะพิจารณาตัดสินมาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวจากปัจจัยหลักดังนี้
- สภาพทางกายภาพ เช่น ที่ตั้ง สภาพแวดล้อม เป็นต้น
- การก่อสร้าง เช่น โครงสร้างทางกายภาพของโรงแรม ระบบในโรงแรม การเลือกใช้วัสดุ ระบบความปลอดภัย
- สิ่งอํานวยความสะดวกสําหรับผู้เข้าพักและผู้มาใช้บริการ เช่น ปริมาณของใช้ที่จัดให้ อุปกรณ์ตกแต่ง เป็นต้น
- คุณภาพการบริการและการรักษาคุณภาพ เช่น บุคลิกภาพ คุณภาพการบริการ ความสะอาด สุขอนามัย ชื่อเสียงโรงแรม เป็นต้น
- การบํารุงรักษาโรงแรม สิ่งอํานวยความสะดวกต่างๆ ตามที่กล่าวข้างต้น
คุณสมบัติของโรงแรมที่จะขอให้รับรองมาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวโรงแรม/รีสอร์ท
- เป็นโรงแรมที่ประกอบกิจการอยู่ในประเทศไทย
- มีใบอนุญาตอประกอบกิจการโรงแรมถูกต้องตามกฏหมายของประเทศไทย
- ประกอบกิจการตามปกติในทุกส่วนของโรงแรมมาแล้ว 1 ปีขึ้นไป
- ยอมรับหลักเกณฑ์การรับรองมาตรฐานโรงแรมในประเทศไทยของคณะกรรมการรับรองมาตรฐานโรงแรมทุกข้อโดยไม่บ่ายเบี่ยง
- ชําระค่าธรรมเนียมการตรวจและรับรองมาตรฐานโรงแรมในประเทศไทย
การรับรอง มาตรฐานที่พัก เพื่อการท่องเที่ยวโรงแรม/รีสอร์ท
- การรับรองมาตรฐานจะมีผลเป็นระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการรับรองมาตรฐานโรงแรมได้แจ้งผลอนุมัติ รับรองมาตรฐาน
- เมื่อครบเวลาการรับรองมาตรฐาน หากโรงแรมต้องการให้รับรองมาตรฐานโรงแรมต่อไปอีก โรงแรมจะต้องแจ้งให้ คณะกรรมการรับรองทราบล่วงหน้าก่อนสิ้นเวลาของการรับรอง เพื่อทําการตรวจสอบโรงแรมต่อไป
- ในระหว่างระยะเวลาการรับรองมาตรฐาน คณะกรรมการรับรองมาตรฐานโรงแรมอาจทําการสอบทานมาตรฐานโรงแรม โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยจะไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ
- ผู้สนใจสามารถขอรายละเอียดหรือสมัครเพื่อขอรับรองมาตรฐานโรงแรมได้ที่ “มูลนิธิมาตรฐานโรงแรมไทย” ปัจจุบันใช้ สํานักงานของสมาคมโรงแรมไทยเลขที่ 203-209/3 ถนนราชดําเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ 02 282 5277ต่อ 162 162 โทรสาร 02 282 7009
การตรวจมาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวโรงแรม/รีสอร์ท
ในการตรวจพิจารณามาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวทุกครั้ง จะต้องมีคณะกรรมการทั้งจากส่วนกลางและส่วน ภูมิภาคที่มาจาก 4 องค์กร เป็นอย่างน้อย
- การพิจารณามาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวระดับ 5 ดาว ไม่น้อยกว่า 4 คนขึ้นไป
- การพิจารณามาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวระดับ 4-1 ดาว ไม่น้อยกว่า 3 คนขึ้นไป
คณะกรรมการตรวจประเมิน มาตรฐานที่พัก เพื่อการท่องเที่ยวโรงแรม/รีสอร์ท
- ตัวแทนกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
- ตัวแทนกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
- ตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- ตัวแทนสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(ATTA)
- ตัวแทนสมาคมโรงแรมไทย(THA)
- ตัวแทนจากมูลนิธิมาตรฐานโรงแรมไทย
- ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรการสอนวิชาการโรงแรมในระดับปริญญาตรี
- ตัวแทนจากสมาคมธรุกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ
- ตัวแทนสมาคมสถาปนิกสยาม
- ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการคัดเลือก
คณะกรรมการรับรองมาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวโรงแรม/รีสอร์ท มีจํานวนทั้งสิ้น 11 คน ประกอบด้วย
- ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาการท่องเที่ยวหรือบุคคลที่ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาการท่องเที่ยวแต่งตั้ง จํานวน 1 คน
- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือบุคคลที่ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยแต่งตั้ง จํานวน 1 คน
- ตัวแทนสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(ATTA) ซึ่งดํารงตําแหน่งเป็นนายกสมาคมหรืออุปนายกสมาคม หรือเลขาธิการ จํานวน 1 คน
- ตัวแทนสมาคมที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งดํารงตําแหน่งเป็นนายกสมาคมหรืออุปนายกสมาคม หรือ เลขาธิการ จํานวน 2 คน
- ตัวแทนมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรการสอนวิชาการโรงแรมในระดับปริญญา ซึ่งดํารงตําแหน่งอธิการบดี คณบดี หรือหัวหน้าภาควิชา จํานวน 2 คน ซึ่งมาจากองค์การ ดังนี้
- มหาวิทยาลัยของรัฐบาล จํานวน 1 คน
- มหาวิทยาลัยเอกชน จํานวน 1 คน
- ตัวแทนสมาคมโรงแรมไทย (THA) รวมจํานวน 4 คน ซึ่งประกอบด้วยบุคคล ดังนี้
- นายกสมาคมโรงแรมไทย
- เลขาธิการสมาคมโรงแรมไทย
- ประธานฝ่ายสมาชิกภาพ
- อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย
ในการบริหารจัดงานคณะกรรมการพัฒนามาตรฐานฯนั้น ให้นายกสมาคมโรงแรมไทยดํารงตําแหน่งประธานคณะกรรมการรับรองมาตรฐานโรงแรม และให้ประธานฝ่าย สมาชิกภาพดํารงตําแหน่งเลขานุการคณะกรรมการรับรองมาตรฐานโรงแรม
การสิ้นไปของการรับรองมาตรฐานโรงแรม
- สิ้นระยะเวลาตามที่กําหนดไว้ในการรับรอง (3 ปี)
- โรงแรมไม่สามารถผ่านการสอบทานและไม่สามารถแก้ไขให้กลับสู่มาตรฐานได้ภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการรับรองมาตรฐาน/หรือ คณะกรรมการพิจารณามาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวกําหนดแต่ไม่เกิน 180วัน นับตั้งแต่ได้รับแจ้ง
- มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโรงแรมจนคณะกรรมการรับรองเห็นว่ากระทบต่อปัจจัยหลักในการพิจารณาตัดสินมาตรฐานที่พักเพื่อการ ท่องเที่ยว
- มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการเป็นเจ้าของโรงแรมและมีการบริหารจัดการที่มีผลกระทบต่อมาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยว
- ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมสิ้นอายุ และไม่ได้รับการพิจารณาให้ต่อใบอนุญาต
- โรงแรมปิดดําเนินการทั้งหมดหรือแต่บางส่วน เว้นแต่เพื่อการปรับปรุงโรงแรมภายในระยะเวลาไม่เกิน 180วัน
- ไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับรองไว้ต่อมูลนิธิฯและ/หรือคณะกรรมการรับรองมาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยวแจ้งให้ทราบ
- เกิดเหตุร้ายแรงหรือมีปัจจัยที่เกิดผลแก่โรงแรมผู้ได้รับการรับรอง ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ใช้บริการและ/ประชาชนจํานวนมาก
- ไม่ชําระค่าบํารุง ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ ค่าใช้จ่ายหรือหนี้ค้างชําระใดให้ครบถ้วนถูกต้องภายใน 45วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจํานวนหนี้ที่ค้าง
- โรงแรมผู้ได้รับการรับรองมาตรฐานขอยกเลิกการรับรองมาตรฐาน และจะมีผลเป็นการระงับรับรองมาตรฐานต่อเมื่อคณะกรรมการมีมติอนุมัติ
- เมื่อการรับรองระงับสิ้นไปแล้ว ให้โรงแรมผู้ได้รับการรับรองส่งสัญลักษณ์มาตรฐานโรงแรมและเกียรติบัตรรับรองคืนให้แก่มูลนิธิมาตรฐาน โรงแรม ไทย
เอกสาร/หลักฐานประกอบการพิจารณา
- Document required for consideration
- สําเนาใบอนุญาตเปิดโรงแรม A copy of Hotel Registration
- สําเนาหนังสือรับรองกระทรวงพาณิชย์ (ภายในกําหนด 6 เดือน ก่อนวันสมัคร) A copy of reference from the Ministry of Commerce (updated within 6 months)
- สําเนาใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร A Copy of a construction license
- สําเนาบัตรประชาชนผู้มีอํานาจลงนาม A copy of ID card with authorized signature
- ผู้สมัครต้องไม่ประกอบกิจการที่ขัดต่อศีลธรรม An application must not work immorality
- หมายเหตุเอกสารทุกฉบับต้องลงนามรับรองสําเนาถูกต้อง และประทับตราบริษัท (ถ้ามี)
- Remarks : Each document must be signed by an authorized person and sealed (if possible)
ค่าสมัครขอรับมาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยว Star rating Member of Thai Hotel Association Non-Member 1 - 3 6,420 8,560 4 - 5 12,840 14,980
ระยะเวลาการรับสมัคร
สามารถสมัครได้ตลอดทั้งปี แต่ระยะเวลาในการตรวจขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการ
ผลการตรวจสอบ
- ผ่านมาตรฐาน
- แจ้งให้ผู้สมัครทราบการพิจารณา
- ไม่ผ่านมาตรฐาน
- แจ้งให้ผู้สมัครตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งตามที่จะกล่าวไปเป็นหนังสือและส่งกลับมาที่คณะกรรมการพิจารณามาตรฐานโรงแรมเพื่อ ยืนยันการเลือกภายใน 15 วัน
ทางเลือกที่ผู้สมัครต้องเลือกเมื่อผลการตรวจสอบไม่ผ่านมาตรฐานมีดังนี้
- ยกเลิกการสมัครเข้ารับรองมาตรฐานทั้งหมด
- ยอมรับผลที่คณะกรรมการพิจารณามาตรฐานโรงแรมตรวจสอบได้
- ปรับปรุงให้ได้มาตรฐานให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่คณะกรรมการกําหนดแต่ไม่เกิน 180 วัน เมื่อผู้สมัครปรับปรุงเสร็จ เรียบร้อยแล้วให้แจ้งให้คณะกรรมการทราบเพื่อเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
สมาคมโรงแรมไทย